หอพักนิวอีส
#จูย่ากับรองเท้าสีแดง
(2/2) #มินเจ
ช่วงเวลาดึกดื่นที่เงียบสงัด
เมมเบอร์ต่างแยกย้ายเข้าห้องนอนของตัวเอง การพักผ่อนหลังจากออกงานและฝึกซ้อมได้หมดลงแล้ว
ทุกคนต่างเข้าสู่ช่วงนิทราก็เว้ยเสียแต่คนที่ถ่ายรายการจนเช้า
และติดเป็นนิสัยนอนหัวค่ำไม่เป็น คิมจงฮยอนเปิดตารางดูเพื่อเตรียมตัวในวันถัดไป
ตรวจดูเสื้อผ้าในตู้ที่ยังมีอยู่
ไม่รู้ทำไมช่วงหลังมานี้ถึงได้เอาใจใส่เสื้อผ้าและสภาพห้องนอนมากเป็นพิเศษ ทั้ง ๆ
ที่ปกติห้องจะต้องเรียบร้อย และมักจะได้ยินเสียงบ่นให้ทำความสะอาดอยู่เสมอ
หอพักที่ปกติจะมีเสียงพูดคุยกันเสียงดัง
เล่นอะไรตลก ๆ และมีเสียงหัวเราะประจำตัวของแต่ละคนออกมา ในช่วงที่งานเพิ่มมากขึ้น
ต่างคนต่างไปทำงานของตัวเองทำให้หอพักดูเงียบเหงาลงไปถนัดตา
คังแบคโฮที่ปกติเมื่อมีเวลาว่างจะออกไปปั่นจักรยาน
แต่เพื่อนสนิทที่มักออกไปปั่นจักรยานเล่นกลับไม่อยู่
วันหนึ่งที่พอจะมีเวลาในช่วงหัวค่ำซักหน่อย
เขาเห็นแบคโฮยืนมองจักรยานที่จอดไว้เคียงกันสองคัน
และพอรู้ตัวว่ากำลังถูกมองจึงหันกลับมามองลีดเดอร์ตัวเล็ก
‘ไปปั่นจักรยานด้วยกันไหม’
คำเอ่ยชวนธรรมดาที่แฝงไปด้วยความเหงาในใจ
คิมเจอาร์ได้แต่ส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนกลับไป
แบคโฮหัวเราะแค่นก่อนจะสะพายกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป
เป็นอีกค่ำคืนหนึ่งที่แบคโฮเลือกจะใช้ชีวิตอยู่ในห้องอัดกับเพลงของเขา
จงฮยอนจัดเตรียมอะไรไปเรื่อยเปื่อยก่อนจะเหลือบมองนาฬิกา
เที่ยงคืนกว่าแล้ว เป็นเวลาที่เขาควรนอน แต่ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ
อยากจะดูการ์ตูนเรื่องโปรดแต่ก็กลัวจะติดงอมแงม
อยากจะหยิบเกมมาเล่นแต่ก็กลัวเล่นจนไม่ได้นอน ก้มมองโทรศัพท์ราวกับรออะไรบางอย่าง
แอพพลิเคชั่นแชทกลุ่มของวง ไม่มีแต่ตัวแดง ๆ เด้งบอกจำนวนข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน
ป่านนี้...จะเป็นยังไงบ้างนะ
‘ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด’
เสียงติ๊ดที่ประตูดังขึ้น จงฮยอนขมวดคิ้วมุ่น
ไม่ใช่เมเนเจอร์ฮยองอย่างแน่นอน เมื่ประตูถูกเปิดออก
ร่างสูงที่คุ้นเคยก็เดินเข้ามา หมวก แมสก์ ถูกนำมาใช้ในการอำพรางตัวครั้งนี้
มินฮยอนถอดหมวกกับแมสก์ออกก่อนจะส่งยิ้มให้ลัดเดอร์ตัวเล็ก
“มาได้ยังไง” จงฮยอนถามออกไป
ไม่เห็นจะโทรหรือแชทมาบอกเลยว่าจะกลับ
“พอดี..เสื้อหมดน่ะ” ตอบกลับมายิ้ม
ๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้คนตัวเล็กมากขึ้นเรื่อย ๆ
“แล้วก็มา ‘เอา’ รองเท้าสีแดงด้วย” มินฮยอนบอกก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้เพื่อดันให้จงฮยอนเดินเข้าห้อง
คนตัวเล็กรีบหันหลังให้คนตัวใหญ่กว่าแล้วรีบเดินนำเข้ามาในห้องตัวเอง
หลังจากที่ชเวมินกิเร็นยึดห้องนอนมินฮยอนเป็นของตัวเอง
เวลาที่มินฮยอนกลับมาจึงต้องมานอนที่ห้องขอเขาแทน
เสื้อผ้าบางส่วนก็ถูกโยกย้ายมาไว้ที่นี่ ทำอย่างกับมาย้ายมานอนนี่งั้นแหละ
แต่มินกิประกาศกร้าวอย่างมั่นใจว่าจะไม่คืนห้องให้มินฮยอนแล้วนี่นา...
เอาเถอะ เป็นเรื่องของอนาคต
“หื้ม! ผ้าหอมขึ้นนะ” มินฮยอนบอกยิ้ม
ๆ ในขณะที่ยกแขนเสื้อลายทางตรงของตัวเองขึ้นมาดม หยิบเสื้อของตัวเองออกมาสี่ห้าตัว
ทั้งเสื้อเชิ้ตลายทาง และเสื้อยืดก็ปะปนกันไป
มินฮยอนหันมองเจ้าของห้องที่นั่งมองเขาอยู่นิ่ง ๆ
รู้สึกลีดเดอร์ตัวเล็กของเขาตัวเล็กลงรึเปล่านะ
“ได้กินข้าวบ้างรึเปล่า” มินฮยอนถามขณะค่อย
ๆ พบเสื้อลงในกระเป๋า
“กินสิ กินเยอะด้วย ยิ่งไนท์ก็อบลินพี่ ๆ
ยิ่งพาไปกินเยอะเลย”
“แต่ดูผอมลงนะ” มินฮยอนบอกแล้วเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปวางไว้ข้างประตู
เดินมานั่งลงข้าง ๆ คนตัวเล็กที่ใส่ชุดนอนเรียบร้อย อากาศช่วงนี้ไม่ใช่หน้าร้อน
จึงไม่เห็นเจอัลลี่คนดีใส่แต่บ๊อกเซอร์นอน แต่เขากลับมาทั้งทีนี่นา
จะมาแค่เอาเสื้อเฉย ๆ เหรอ
“ก็มันไม่อ้วนนี่นา ให้ทำไงอะ”
“ฮะ ๆ ๆ ไม่ต้องอ้วนหรอก แค่นี้ก็กำลังดี”
“ก็เมื่อกี้ยังบอกผอมลงอยู่เลย”
“’งั้นถ้ากินตอนนี้ก็จะอ้วนได้นะ”
“กินอะไรตอนนี้เล่า ไม่มีอะไรให้กินแล้ว” จงฮยอนน่ายู่
งงกับมินฮยอน สรุปว่าเขาอ้วนหรือไม่อ้วนกันแน่
“มีสิ” มินฮยอนเว้นวรรค ยกยิ้มที่มุมปาก เขยิบเข้าไปใกล้คนตัวเล็กมากขึ้นเรื่อย
ๆ
“กินรามยอนกันไหม” น้ำเสียงนุ่มแต่แผ่วเบาที่กระซิบถามข้างหู
จงฮยอนหน้าแดงแต่ก็ไม่ปฏิเสธ มินฮยอนยิ้มอย่างพอใจก่อนจะค่อย ๆ
ประคองแก้มนุ่มทั้งสองข้าง ประกบริมฝีปากลงบนริมฝีปากอิ่มได้รูป....
“อื้ม...” ความคิดถึง ความโหยหา
ถูกส่งผ่านความหวานที่มอบให้กัน เสียงหอบหายใจและเสียงครางคลอเบา ๆ
ยิ่งทำให้มินฮยอนไม่มีสติ เขารู้ดีว่าคิมจงฮยอนของเขาน่ะ น่ารักที่สุดในโลก
แต่เวลาที่คนตัวเล็กส่งเสียงอื้ออึงตามสิ่งที่เขาชักนำแล้วมันช่าง....ขยี้หัวใจเสียจริง
มือหนาไล้ที่เอวบาง ถลกเสื้อของคนตัวเล็กขึ้นทีละนิดก่อนจะถอดมันออกด้วยความรำคาญ
มินฮยอนยังคงมอบความคิดถึงที่เขาคิดถึงจงฮยอนมาโดยตลอดผ่านทางริมฝีปากอิ่มที่เขากำลังเคลิบเคลิ้มและหลงใหล
กัดริมฝีปากคนตัวเล็กเล่นทีไรก็มีแต่เสียงไพเราะหูออกมาให้ได้ยิน
เอวบางที่จงฮยอนมักบอกอยู่เสมอว่ามันต่ำกว่ามาตรฐาน
และเขาเองก็ไม่ได้อยากรู้ว่ามันจะมีขนาดกี่นิ้ว แต่เพราะมันพอดีกับมือของเขา
มันขึงไม่เป็นปัญหาเลยว่าจะผอมไปหรือเปล่า ไม่หรอก เพราะต่อให้จงฮยอนจะอ้วนกว่านี้
หรือจะผอมลงกว่านี้ จงฮยอนก็จะเป็นคนน่ารักสำหรับมินฮยอนเสมอ
ท่อนบนเปลือยเปล่าต้องแสงไฟในห้อง สีผิวที่ผ่องขึ้นกว่าเดิมหลายเท่ายิ่งชวนให้มินฮยอนเข็ดฟัน
จากปกติที่ผิวของคนตัวเล็กจะเซ็กซี่ในแบบฉบับของสีน้ำผึ้งหวานฉ่ำ
แต่ตอนนี้สีน้ำผึ้งนั้นได้แปรเปลี่ยนไป สีผิวที่ผ่องขึ้นจนเห็นสัดส่วนได้ชัดเจน
หากเกิดรอยสีชมพูบนเนินอกก็น่าจะสวยขึ้นไม่น้อย มินฮยอนเผลอกัดริมฝีปากอย่างอดรนทนไม่ไหว สุดท้ายจึงรีบถอดเสื้อตัวเองออกแล้วแล้วดันร่างคนตัวเล็กกว่าลงบนเตียง
ริมฝีปากบางสวยได้รูปกำลังมีความสุขกับจุดอ่อนไหวที่กำลังชูชันตอบสนองริมฝีปากสวย
เสียงครางอื้ออึงชวนเสนาะหิ่งกว่าบทเพลงใด ๆ ยิ่งกว่าการร้องเพลงของเจ้าของเสียง
มินฮยอนกำลังมีความสุข
และรับรู้ได้ว่าคนตัวเล็กที่เขากำลังปรนเปรอก็มีความสุขเช่นกัน
กางเกงที่ปกปิดร่างกายได้ล่างไว้ดูเกะกะกว่าทุกที
ถึงแม้จะเป็นกางเกงใส่สบายถอดออกอย่างง่ายดาย
แต่มันกลับทำมินฮยอนหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อมันมาขัดจังหวะ
เสียงกระเส่าของคนตัวเล็กยิ่งทำเขาประสาทเสียมากกว่าเดิม
กระชากกางเกงคนตัวเล็กและของตัวเองออกอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่วินาที
คนตัวเล็กลุกขึ้นนั่งก่อนจะส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ชวนให้หลงใหลยิ่งกว่าเดิม
ลุกขึ้นมานั่งบนตักแกร่งของคนตัวใหญ่กว่า มินฮยอนยิ้มก่อนจะมอบรอยรักสีแดงอีกครั้ง
คนตัวเล็กแอ่นหน้าอกรับพร้อมกับตอบสนองและมอบความรักให้แก่คนที่เขาคิดถึงเช่นกัน
การเขยิบร่างกายบนแก่นกายช่างเป็นเรื่องง่ายดายเมื่อเป็นสิ่งที่ทั้งคู่ปรารถนา
เสียงครางอื้ออึงไปมาทั่วห้องช่างยั่วยวนให้ทั้งคู่มอบรสจูบแสนหวานและพร้อมดื่มดำไปกับมันราวกับกำลังดำน้ำสู่ใต้ท้องทะเลอันกว้างใหญ่
แต่มันไม่ใช่การดำน้ำเพียงคนเดียว แต่การดื่มด่ำลงสู่ใต้ห้วงทะเลลึก
เพื่อไปจดทะเบียนสมรสเพื่อพันธนาการพวกเขาไว้ต่างหาก
สะโพกเล็กเขยิบไปมาอย่างรู้งาน
มือหนาแสนซุกซนปนยิ้มร้ายที่ไม่เหลือรอยยิ้มคุณชายเลยแม้แต่น้อย
มินฮยอนลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างบอบบางที่เขาแสนทะนุถนอม
เขาไม่เคยทำอะไรจงฮยอนรุนแรงนักหรอก เว้นแต่ว่าคนตัวเล็กจะเป็นฝ่ายขอ
ให้ตายเถอะ ...คิมจงฮยอนเซ็กซี่ชะมัด
มินฮยอนไม่อาจทนความยั่วยวนที่คนตัวเล็กแกล้งเขาในขณะที่อยู่บนตักได้
แต่เมื่อก็ย่อมมีโอกาสเมื่อคนตัวเล็กกำลังถึงจุดสุดยอดที่เขาไม่ได้ถึงตามไปด้วย
มินฮยอนดันร่างเล็กออกก่อนจะคว่ำลงบนเตียง
จงฮยอนหายใจติดขัดก่อนจะร้องครางในลำคออย่างสงสาร
โดนทุบอกมาหนึ่งทีแต่ด้วยแรงอันน้อยนิดที่กำลังเสียวได้ที่และใกล้จะเสร็จอยู่รอมร่อ
กลับต้องถูกขัดจังหวะด้วยคนตัวโตเสียนี่
คนบ้ามินฮยอน...
ยิ้มร้ายในคราบสุนัขจิ้งจอก เห็นหางกระดิกไหว ๆ
ด้วยความเจ้าเล่ห์เชียวล่ะ
“ผมจะทำให้จงฮยอนมีความสุขเอง” เสียงกระซิบข้างหูด้วยถ้อยคำสวยหรูตามแบบฉบับคนไม่พูดคำหยาบ
จงฮยอนกัดริมฝีปากตัวเองแน่นด้วยความเสียว
มือหนาจับคางคนตัวเล็กไว้ก่อนจะส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงบอกให้เลิกกัดปาก เพราะคนที่จะกัดได้
คือเขาคนเดียวเท่านั้น
ริมฝีปากอิ่มได้รูปถูกครอบครองไปด้วยริมฝีปากสวยได้รูป
ดูดดุนและควานหาความหวานจากคนตัวเล็ก
ช่างร้อนแรงมากขึ้นตามจังหวะที่กระทั้นที่ที่ตัวใหญ่มอบให้
แรงกระทั้นช่วงล่างยิ่งเพิ่มความเสียวให้กับคนตัวเล็กที่รับทุกอย่างของแรงกระทำ
“อื้อ....”
เสียงจนอดครางเสียงดังออกมาไม่ไหว
เขาไม่สนแล้วว่าจะมีใครได้ยินเสียงของกิจกรรมยามค่ำคืนนี้บ้าง
แต่ความรู้สึกดีที่มันเสียวซ่านไปทั้งตัวแบบนี้ต้องได้รับการปลดปล่อย
ให้ตายเถอะฮวังมินฮยอน!
จงฮยอนจิกเส้นผมหนาของคนตัวเล็กที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการโลมเลียยอดอกที่กำลังต้อนรับลิ้นร้อนนั้นเป้นอย่างดี
ความรู้สึกแบบนี้ที่ไม่ได้สัมผัสมานานมันช่าง...
จงฮยอนปฏิเสธไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียวว่าเขารู้สึกดีและชอบมันแค่ไหน
แล้วยิ่งเป็นฮวังมินฮยอนคนที่เขากำลังคิดถึงสุดขั้วหัวใจแบบนี้
เขารู้ว่ามินฮยอนเองก็คิดถึงเขามากแค่ไหนเหมือนกัน
ไม่มีช่วงไหนที่มินฮยอนจะผละออกจากร่างเขาได้เลย ทั้งลูบไล้ ลุกล้ำ
และพยายามกอบกุมร่างกายทุกส่วนเอาไว้เป็นของตัวเอง ราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป
มินฮยอนก็คือมินฮยอน ยังเป็นคนโลภเวลาที่อยู่บนเตียงเสมอ
แรงกระทั้นแรง ๆ ถูกแปรเปลี่ยนเป็นแรงเข้าออกอย่างช้า
ๆ และอ้อยอิ่ง มินฮยอนยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้ยินเสียงจงฮยอนครางซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไพเราะยิ่งกว่าเพลงบัลลาดที่เขาชอบฟัง
หรือแม้แต่เพลงที่จงฮยอนชอบและเขาก็ชอบที่จะร้องให้จงฮยอนได้ฟัง ให้ตายสิ
จะทำให้หลงไปถึงไหนนะ ...คิมจงฮยอน
อดไม่ได้ที่จงฮยอนจะไม่กัดริมฝีปาก
ด้วยความรู้สึกทุกอย่างที่มินฮยอนมอบให้ มันมากเกิน
มันมากเกินกว่าที่จงฮยอนจะรับมันไหวได้
การส่งเสียงร้องออกมาเพื่อบ่งบอกถึงความอัดอั้นที่เขาได้รับมามากเกินไป
แรงกระทำทุกอย่างที่คนตัวโตส่งมามั่นช่าง... ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
อาจเพราะความห่างกันทำให้เขาไม่ชินกับความใหญ่ที่เข้ามาในตัวเขาก็เป็นได้
อ่า... จุก
ร่างเล็กกระเส่าอยู่ใต้ร่างคนตัวใหญ่กว่า
มินฮยอนปลอบประโลมคนตัวเล็ก จูบขมับเบา ๆ ย้ำ ๆ แล้วกระซิบเบา ๆ
ให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลาย การห่างกันยิ่งทำให้คนตัวเล็กเกร็งและกดดัน
มินฮยอนแค่อยากมอบความสุขให้ รู้สึกผ่อนคลายบ้างจงฮยอนอ่า
เมื่อคนตัวเล็กส่งเสียงคราวจนสุดเสียง แรงตอบรับก็เริ่มเบาลง มินฮยอนเองก็ค่อย ๆ
ผ่อนทุกลงก่อนที่น้ำสีขุ่นจากความรักของทั้งคู่จะไหลออกมา
เปรอะเปื้อนผ้าปูที่นอนลายจุดสีเข้ม
“ขอโทษ คงต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่” มินฮยอนบอกยิ้ม
ๆ เมื่อเห็นคราบรักของเขาทั้งคู่ จงฮยอนได้แต่ส่ายหน้าและนอนหอบหายใจอยู่ข้าง ๆ
มินฮยอนยิ้มยกตัวขึ้นจูบหน้าผากมนก่อนจะเอยกายลงข้าง ๆ
“ฝันดีครับ”
แต่ในขณะที่มินฮยอนกำลังจะหลับ
จงฮยอนกลับเอาแต่เขย่าแขนด้วยแรงอันน้อยนิด
นึกด่าในใจว่าทำไมถึงไม่ยอมตื่นขึ้นมาทั้ง ๆ ที่ไม่น่าจะหลับได้เพียงแค่เสี้ยวนาทีแบบนี้
“มินฮยอนอ่า” เรียกเสียงเบาแต่ยังหอบหายใจอยู่
สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเรียกอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้น
“มินฮยอนอ่า...”
“ถ้าไม่ล้างออก ฉันจะปวดท้องนะ” ประโยคล้างน้ำเสียงราวกับจะร้องไห้ของตัวเล็ก
ทำเอาคนที่นอนนิ่งแกล้งหลับต้องอมยิ้มออกมา นั่นสิ...ถ้าจงฮยอนปวดท้องไปทำงาน...
“อย่าคิดจะแกล้งอะไรบ้า ๆ นะ” จงฮยอนเสียงแข็งแต่ก็ยังนอนนิ่ง
“ไม่แกล้งแล้วครับ แต่ว่า...” มินฮยอนลืมตานอนหันข้างให้จงฮยอน
ยิ้มเจ้าเล่ห์แบบจิ้งจอกอีกครั้ง
สาบานได้เลยว่ารอยยิ้มนี้เป็นรอยยิ้มที่จงฮยอนเกลียด ถ้าไม่ติดว่าหมดแรงแล้วล่ะก็นะ...ฮวังมินฮยอน!
“อ้อนหน่อยสิ” บอกแล้วว่าเกลียด
ไม่ใช่คนเริ่ม ไม่ใช่คนทำ แต่กลับต้องมาอ้อนให้ล้างเนี่ยนะ
“มากไปแล้ว”
“อยากปวดท้องเหรอครับ” เกลียดรอยยิ้มฮวังมินฮยอนที่สุด
“อย่าให้ถึงทีเราบ้างนะ”
“ฮะ ๆ ๆ ” มินฮยอนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ทำเอาคนตัวเล็กหน้าบูด
“เค้าไม่ปล่อยให้ตัวเองปวดท้องหรอกนะ” น้ำเสียงนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยน
มินฮยอนลุกขึ้นและจัดการให้จงฮยอนเสร็จสรรพ
ก็รักขนาดนี้ จะแกล้งได้นานแค่ไหน จะปล่อยให้ปวดท้องได้ยังไง
ก็ฮวังมินฮยอนน่ะ รักคิมจงฮยอนที่สุดเลย
.
.
.
04:00 AM
“ตัวเอง เค้าไปก่อนนะครับ” มินฮยอนกระซิบที่ข้างหูคนตัวเล็ก
ทั้ง ๆ ที่พึ่งได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมง จงฮยอนงัวเงียลืมตาขึ้นมามอง
เห็นมินฮยอนนั่งลงอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้า
“จะไปแล้วเหรอ” จงฮยอนถามเสียงงัวเงีย
“ขอโทษนะ ถ้าไม่สบายแล้วเค้าไม่ได้อยู่ดูแลต้องแย่แน่เลย”
“สบายดี ไม่เป็นไรหรอกน่า”
“คิดถึงนะครับ”
“เมื่อคืนนี้ยังไม่หายรึไง”
“เพราะเมื่อคืน ยิ่งทำให้คิดถึงนะ”
“คนบ้า”
“ตัวเอง...” มินฮยอนเว้นจังหวะ
คนตัวเล็กเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“รองเท้าสีแดง ให้เตงไว้ใช้นะ”
“ไม่เอาไปด้วยล่ะ” จงฮยอนถามขึ้นอย่างสงสัย
ก็มีจะมาเพราะจะมาเอารองเท้าสีแดงไม่ใช่รึไง
“ไว้เค้าอยากได้แล้วจะมา ‘เอา’ อีกนะ”
“หื้ม! คนละเอาไหม!” กว่าจงฮยอนจะรู้ตัว ก็โดนมินฮยอนมอบความรักให้ไปจนหมดแรง
เสียงหัวเราะสดใสของมินฮยอนทำให้จงฮยอนยิ้มออกมา
อ่า...เสียงหัวเราะที่คุ้นเคย
“เค้าไปแล้วนะ”
“ดูแลตัวเองด้วยนะ” จงฮยอนกำชับ
“ครับ” มินฮยอนตอบก่อนจะหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองออกไปเงียบ
ๆ
การได้พบเจอกันเพียงไม่กี่ชั่วโมง
อย่างน้อยมันก็พอบรรเทาความคิดถึงได้บ้างละนะ หรืออย่างน้อย ๆ
ก็ไม่ต้องรอเป็นปี....
อ่า....
จะผิดไหมเนี่ย
ถ้า...
อยากให้ปีใหม่นี้เป็นปี 2019